A : ข้อแตกต่างระหว่าง WaterJet, Laser และ Plasma Cutting
Waterjet Cutting ทำการตัดโดยเพิ่มความดันน้ำผสมผสานกับเม็ดทราย (abrasive) ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระบบนี้มีราคาถูกกว่าแบบ Laser และไม่ก่อให้เกิดรอยจากความร้อน ซึ่งเหมาะที่จะใช้กับพวกโลหะแข็ง รวมทั้งสามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด ได้ผิวรอยตัดที่สวยงาม แต่ใช้เวลานานในการตัด
Laser Cutting ให้ความแม่นยำที่สูงมาก และทำให้รอยที่เกิดจากการตัดโลหะด้วยความร้อนมีขนาดเล็กที่สุด จากกลุ่มของการตัดโดยใช้อุณหภูมิ ตัดได้รวดเร็ว และยังใช้ทรัพยากรที่ประหยัดกว่าแบบ Plasma แต่ค่าใช้จ่ายในการใช้ Laser นั้นมีค่าสูงกว่าระบบการตัดแบบอื่นๆ ในขณะที่ความหนาของวัสดุที่จะทำการตัดมีความจำกัดและอาจจะมีปัญหาในการตัดวัสดุที่สะท้อนแสงได้
Plasma arc Cutting เป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้กันมากในสถานที่ซ่อมบำรุง สามารถที่จะใช้ตัดแผ่นโลหะที่ค่อนข้างหนาได้ ราคาถูกกว่า Waterjet และ Laser ซึ่ง Plasma Cutting แบบระบบไนโตรเจนนั้นเหมาะสำหรับโลหะจำพวก สแตนเลสสตีล , อลูมิเนียม และ นิกเกิล ส่วนแบบระบบออกซิเจนนั้นเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์จำพวกคาร์บอน และไม่ทิ้งพวกตะกอนไนไตรด์
ข้อเสียของ Plasma arc Cutting คือมีอายุการใช้งานที่ต่ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าใช้แก๊สชนิดใด ความเชี่ยวชาญของผู้ใช้ และจะเกิดรอยจากความร้อน ทิ้งอยู่บริเวณที่ทำการตัด ซึ่งถ้าทำการตัดโลหะในน้ำนั้นจะช่วยลดขนาดของรอยตัดที่เกิดจากความร้อนได้
ทั้งนี้การจะเลือกใช้วิธีการใดสำหรับงานตัด ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในหลายๆ ด้านที่กล่าวมา โดยแต่ละกระบวนการก็มีความเหมาะสม ที่แตกต่างกันไป